ในวงการอุตสาหกรรม กระบอกลมนิวเมติกมีความสำคัญไม่แพ้อุปกรณ์ชนิดอื่น ๆ เลยแม้แต่น้อย ซึ่งกระบอกลมนี้จะช่วยเปลี่ยนจากพลังงานความดันลมให้กลายเป็นพลังงานกล สำหรับใช้ขับเคลื่อนเครื่องจักรในโรงงานอุตสาหกรรม บทความนี้จะมากล่าวถึงกระบอกลมนิวเมติกว่าแบ่งได้ทั้งหมดกี่ประเภท
กระบอกลมนิวเมติก มีลักษณะอย่างไร
อุปกรณ์ที่ชื่อว่ากระบอกลมนิวเมติกเป็นอุปกรณ์ที่ใช้ในการเปลี่ยนพลังงานความดันลมเป็นพลังงานกล ซึ่งพลังงานนี้จะทำให้เกิดการเคลื่อนที่เชิงเส้นตรง หมุนได้ตั้งแต่ 90 องศา, 180 องศา, 270 องศา และ 360 องศา รูปแบบการใช้งานจึงเหมาะกับอุตสาหกรรมที่การผลิตแบบอัตโนมัติ ตัวอย่างเช่น การยกสิ่งของ การจัดเรียงสินค้า การบรรจุสินค้า รวมถึงการให้ชิ้นงานเคลื่อนไปยังทิศที่ต้องการ
นอกจากนี้ยังมีการนำไปประยุกต์เข้ากับอุตสาหกรรมอื่น ๆ มากมาย สามารถควบคุมและใช้งานได้ง่าย อีกทั้งต้นทุนก็ต่ำกว่าเมื่อเทียบกับการให้พลังงานแบบอื่น ตัวอย่างเช่น พลังงานไฟฟ้า หรือไฮดรอลิก อุปกรณ์ที่ประกอบกันในกระบอกสูบนิวเมติกนั้น ได้แก่ ก้านสูบ เสื้อสูบ ลูกสูบ และฝาครอบหน้า-หลัง
ประเภทของกระบอกลมนิวเมติกตามการใช้งาน มีอะไรบ้าง
หลัก ๆ แล้วการใช้งานของกระบอกลมนิวเมติกจะแบ่งได้ 2 ประเภท ลักษณะการทำงานของแต่ละประเภทจะไม่เหมือนกัน ตามการออกแบบระบบและจุดประสงค์การใช้งาน ถ้าอยากใช้กระบอกลมนิวเมติก จำเป็นต้องตรวจดูด้วยว่าหลักการทำงานนั้นเหมาะกับอุตสาหกรรมที่ต้องการนำไปใช้งานหรือไม่ โดยสามารถกล่าวถึงประเภทกระบอกนิวเมติกตามการทำงานได้ดังต่อไปนี้
- Double Acting Cylinders
เป็นการทำงานแบบสลับโดยใช้แรงดันสองทางให้เกิดการเคลื่อนที่ ใช้ pressure ท้ายกระบอกเพื่อดันออก และใช้ pressure หน้ากระบอกในการดันกลับ ประเภทนี้จะนิยมใช้อย่างแพร่หลายมากสุด เนื่องจากแรงดันอากาศสองทางจะส่งผลให้สามารถทำงานได้อย่างสะดวก อีกทั้งใช้งานง่ายมาก
- Single Acting Cylinders
เป็นการเคลื่อนที่โดยใช้แรงดันให้ไปทิศเดียวกัน ข้างในมีสปริงสำหรับดันลูกสูบกลับเข้าที่ เตรียมนำมาใช้อีกในครั้งต่อไป ประเภทกระบอกลมนิวเมติกนี้เหมาะต่อการโหลดงานน้อย ๆ แต่ก็อยู่ที่การออกแบบงานด้วย
ดังที่กล่าวมาจะเห็นได้ว่ากระบอกลมนิวเมติกเป็นอุปกรณ์สำคัญอีกหนึ่งชนิด ที่ใช้เปลี่ยนพลังงานไฟฟ้าเป็นพลังงานกลเพื่อขับเคลื่อนสิ่งของหรืออุปกรณ์ต่าง ๆ ในโรงงานอุตสาหกรรม ซึ่งก็แบ่งได้ 2 ประเภท แต่ละประเภทมีลักษณะการทำงานที่เหมาะสมต่อการนำมาใช้ขับเคลื่อนแตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับการเลือกของผู้ใช้งานว่าควรนำกระบอกลมนิวเมติกแบบใดมาใช้กับอุตสาหกรรมของตนเพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุด